ผ้าอนามัยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้หญิงทุกคนคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดสุขอนามัยที่ดีระหว่างมีรอบเดือนและยังป้องกันคราบเปื้อนเสื้อผ้าที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้ผู้หญิงทุกคนจึงให้ความสำคัญกับการเลือกผ้าอนามัยเป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลสุขอนามัยของผู้หญิง ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ถูกจับตามองอย่าง ถ้วยอนามัย (Sanitary Cup)
โดยบทความนี้จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลด้านสุขอนามัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากขึ้น
ทำไมสาว ๆ ถึงควรเปลี่ยนมาใช้ ถ้วยอนามัย แทนผ้าอนามัย
สิ่งที่ทำให้สาวหลายคนเกิดความสงสัยมากที่สุดจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบายในการสวมใส่และประสิทธิภาพในการใช้งาน 5 เหตุผลนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข้อดีที่เห็นได้ชัดประการแรกในการใช้ Sanitary cup ระหว่างมีประจำเดือน คือ ช่วยลดขยะที่เกิดจากผ้าอนามัยใช้แล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้หญิงจะใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นและผ้าอนามัยแบบสอด ประมาณ 3 – 5 ชิ้น ต่อวัน หรือประมาณ 140 ล้านชิ้นต่อเดือน (อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Marketeer online) ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน ซึ่งการเลือกใช้ถ้วยอนามัยที่สามารถล้างทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ต่อได้จึงเป็นทางเลือกด้านสุขอนามัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในปัจจุบันราคาผ้าอนามัยจะอยู่ที่ประมาณ 3 – 10 บาทต่อชิ้น ราคาขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการใช้งานของผ้าอนามัยแต่ละแบบ ทำให้แต่ละเดือนผู้หญิงจะต้องจ่ายเงินค่าผ้าอนามัยประมาณ 100 – 200 บาท แต่การสวมใส่ถ้วยอนามัยจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า โดยราคาถ้วยอนามัยจะมีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อผ้าอนามัยราว ๆ ปีละ 1,200 – 2,400 บาทเลยทีเดียว
- ความสะดวกสบาย คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการสวมใส่ถ้วยอนามัยจะยุ่งยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้วยอนามัยที่ผลิตจากซิลิโคนเกรดทางการแพทย์จะมีลักษณะที่อ่อนนุ่ม สวมใส่ง่ายและมีรูปทรงที่ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี จึงสวมใส่สบาย ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือน ความสามารถในการป้องกันการรั่วซึมยาวนานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณประจำเดือนของแต่ละบุคคล ซึ่งการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดหรือแบบแผ่นที่ต้องคอยเปลี่ยนทุก 3 – 6 ชั่วโมง
- ประสิทธิภาพในการป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ แม้ว่าคุณสมบัติของถ้วยอนามัยจะสามารถป้องกันการรั่วซึมได้สูงสุดถึง 12 ชั่วโมง แต่ไม่ต้องกังวลกับปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มักเกิดขึ้นจากการใส่ผ้าอนามัยแบบแผ่น
- ช่วยเรื่องสุขอนามัย การใช้ถ้วยอนามัยไม่ทำลายความสมดุลของค่า pH ตามธรรมชาติของจุดซ่อนเร้นเหมือนกับการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดที่ดูดซับความชื้น รวมถึงไม่ต้องกังวลกับอาการระคายเคืองที่มักเกิดขึ้นจากการใช้ผ้าอนามัยที่มีสารเคมีและน้ำหอมช่วยลดกลิ่นอับ
Step by Step ใส่ ถ้วยอนามัย ไม่ใช่เรื่องยาก
สาวคนไหนสนใจที่อยากลองซื้อถ้วยอนามัยมาสวมใส่แทนการใช้ผ้าอนามัยขอแนะนำวิธีการสวมใส่แบบ Step by Step ดังนี้
- ล้างมือให้สะอาด ก่อนที่จะสวมใส่ถ้วยอนามัยทุกครั้งควรล้างมือให้สะอาด ป้องกันเชื้อโรคที่เกาะอยู่บนมือ หรือเล็บมือเข้าสู่ร่างกาย
- พับถ้วยอนามัย เมื่อล้างมือเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ทำการพับถ้วยอนามัยตามแนวยาว
- ใส่เข้าไปในจุดซ่อนเร้น เมื่อพับแล้วก็ให้สวมใส่ด้านปากถ้วยเข้าไปในจุดซ่อนเร้นให้ลึกที่สุดเท่าที่จะใช้นิ้วดันเข้าไปได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จับบริเวณสายเพื่อขยับเล็กน้อยเพื่อให้ปากถ้วยอ้าออกและเกิดสูญญากาศ
สำหรับวิธีการนำถ้วยอนามัยออกมา ทำได้ง่ายมาก ๆ หลังจากล้างมือให้สะอาด ใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลางดึงบริเวณสายถ้วยอนามัยออกมาอย่างเบามือ จากนั้นเทประจำเดือนทิ้งลงชักโครก ล้างถ้วยอนามัยด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ และล้างฟองสบู่ด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
ข้อควรรู้ในการใช้ถ้วยอนามัย
แม้ว่าถ้วยอนามัยจะสามารถทำความสะอาดด้วยการนำไปล้างด้วยน้ำสบู่และน้ำเปล่าแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ควรมีติดตัวเอาไว้อย่างน้อย 2 อัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการทำถ้วยอนามัยร่วงหล่นบนพื้น หรือชักโครกที่อาจเกิดขึ้นได้
หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทำความสะอาดตามขั้นตอนปกติ คือ ล้างด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยสบู่อ่อน ๆ และน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นนำไปต้ม หรือนึ่งในน้ำร้อนเพื่อทำความสะอาดเชื้อโรคให้หมดจด
นอกจากนี้เพื่อให้การเลือกถ้วยอนามัยเข้ากับสรีระแต่ละคนมากที่สุด โดยใช้วิธีการเลือกขนาดถ้วยอนามัยที่เหมาะสมจากช่วงอายุ คือ เด็กวัยรุ่น – วัยทำงานอายุไม่เกิน 30 ปีและไม่เคยผ่านการคลอดบุตร ควรเลือกไซซ์ S, ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ยังไม่เคยมีบุตรควรเลือกไซซ์ M แต่หากมีบุตรแล้วควรเลือกไซซ์ L ทั้งนี้เกณฑ์การวัดขนาดถ้วยอนามัยที่เหมาะสมเป็นเพียงไกด์ไลน์ในการเลือกเท่านั้น จึงควรใช้วิธีการอื่น ๆ ในการวัดความเหมาะสมร่วมด้วย
การเลือกใช้ ถ้วยอนามัย เป็นการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัยของผู้หญิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อผ้าอนามัยในระยะยาวและช่วยให้การใช้ชีวิตระหว่างที่มีประจำเดือนสนุกสนานยิ่งขึ้น ไม่ต้องงดกิจกรรมทางน้ำ หรือเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ ในวันที่มามากอีกต่อไป
ที่มาข้อมูล: Marketeer , wongnai , Think Forward Center , Vogue