คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกทรงผมส่งผลต่อหน้าตาและบุคลิกของเราได้เหมือนกัน ทรงผมทรงเดียวกันใช่ว่าทุกคนตัดแล้วจะออกมาดูดี เช่น บางคนตัดผมซอยสั้นแล้วดูเป็นสาวเปรี้ยว แต่บางคนตัดแล้วกลับไม่รอด แม้จะชอบแค่ไหนก็ต้องยอมตัดใจเปลี่ยนไปทำทรงอื่นแทน เพราะฉะนั้นใครอยากเปลี่ยนลุค และกำลังมองหาทรงผมใหม่ ๆ วันนี้เรามีอีกหนึ่งทรงมานำเสนอและเป็นทรงที่กำลังฮิตมาก ๆ ด้วย นั่นก็คือ ทรง Wolf Cut แต่ทรงนี้จะเป็นอย่างไร และจะตัดเองได้หรือไม่ ยากหรือเปล่า ต้องตามไปดูกันค่ะ
ผมทรง Wolf Cut คืออะไร? เหมาะกับใคร?
อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วนะคะว่าทรงนี้กำลังเป็นที่นิยมมาก ซึ่งก็คาดว่ากระแสน่าจะเริ่มมาจากเหล่าไอดอลฝั่งเกาหลีที่เริ่มหันมาตัดทรงนี้กัน แต่จริง ๆ แล้วทรง วูฟคัท นี้ไม่ใช่ทรงใหม่เพราะในอดีตนักร้องและนักแสดงฝั่งตะวันตกเคยนิยมตัดผมทรงนี้กันมาแล้ว ส่วนสาเหตุที่ได้ชื่อนี้ก็มาจากลักษณะเด่นของทรงผมที่เลียนแบบแผงคอของหมาป่านั่นเอง โดยสไลด์ผมให้ไล่ระดับลงมาเป็นเลเยอร์ ด้านบนจะสั้นกว่า มีความหนา และดูมีวอลลุ่มกว่าช่วงปลายผม ส่วนผมด้านหน้าอาจจะตัดเป็นหน้าม้าหรือสไลด์ผมให้ความยาวมาถึงช่วงคาง แสกกลางแล้วม้วนลอนเบา ๆ ก็ช่วยสร้างกรอบหน้าให้ดูเรียวสวยได้ดีทีเดียว ทรงนี้สามารถตัดได้ทั้งผมสั้นและผมยาว และยังสามารถตัดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เรียกว่าสามารถพลิกแพลงได้หลายสไตล์ตามชอบ ไม่จำเป็นต้องมีกฎตายตัวเลยค่ะ
ส่วนใครที่กังวลว่าตัด ทรงผมวูล์ฟคัท แล้วจะเหมาะไหม ต้องบอกเลยว่าโชคดีมาก ๆ ที่ทรงนี้เหมาะกับรูปหน้าแทบทุกแบบ เรียกว่าใครตัดก็ดูดี โดยเฉพาะคนหน้ากลม มีแก้ม ทรงนี้จะทำให้หน้าดูเรียวเล็กลงได้ด้วย นอกจากนี้ยังเหมาะมากสำหรับคนที่ผมหนาและผมหยักศก เพราะผมจะดูมีวอลลุ่มตามธรรมชาติแบบไม่ต้องเซ็ตเยอะ ในขณะที่คนผมบางและผมเส้นเล็กการตัดทรงนี้จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้น แต่อาจจะต้องอาศัยการเซ็ตที่มากกว่าหรืออาจจะใช้การดัดผมเพิ่มเข้ามาช่วย
เปิดขั้นตอนตัด ทรงผมวูล์ฟคัท ด้วยตัวเอง
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่อยากจะตัดตาม แนะนำว่าให้ไปตัดที่ร้านจะดีกว่า ด้วยผมสั้นจะทำให้ตัดด้านหลังได้ค่อนข้างลำบากและมีสิทธิ์ผิดพลาดหรือผมแหว่งได้สูงมากกว่า แต่ถ้าเป็นสาว ๆ ที่ผมยาวบอกเลยว่าไม่ต้องเสียเวลาไปร้านทำผมเลยค่ะ ทรง วูฟคัท นี้ตัดเองที่บ้านได้ง่ายมาก ๆ เราไปดูอุปกรณ์และขั้นตอนการตัดกันเลย
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ :
- กรรไกรตัดผม
- หนังยางมัดผม
- กิ๊บหนีบผม
- หวีซี่ปลายแหลม
ขั้นตอนตัดผม :
- แบ่งผมเป็น 2 ชั้น มัดผมครึ่งบนเหมือนเวลามัดผมครึ่งหัว แต่ให้เอนมาทางด้านหน้าเยอะหน่อย
- มัดผมด้านล่าง ส่วนที่เหลือเอาไว้ก่อน
- เริ่มจัดการกับผมส่วนบนก่อน โดยดึงปลายผมทั้งหมดมาด้านหน้า ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางหนีบลงมาตามความยาวจนถึงจมูก จากนั้นนำยางอีกเส้นมามัดไว้ก่อน
- ตัดผมบริเวณใต้ยาง แล้วแกะยางออก
- ตั้งกรรไกร 90 องศา ใช้นิ้วหนีบแล้วเล็มบริเวณปลายผมให้ซิกแซกจะได้ไม่ดูทื่อจนเกินไป
- ส่วนผมอีกช่อด้านหลัง ก็ทำแบบเดียวกันเลยค่ะ ความยาวตามต้องการ
- เมื่อตัดเสร็จแล้ว แกะผมทั้งหมดและลองหวีดู จะเห็นว่าผมที่ได้ออกมาไล่ระดับเป็นเลเยอร์แล้วเรียบร้อย ง่ายมาก ๆ เลย
- ทีนี้เราก็จะมาจัดการกับผมหน้าม้าต่อ โดยหวีผมแสกกลางจากนั้นใช้ปลายแหลมของหวีจิ้มลงไปตรงกลางของหน้าผาก แล้วกะระยะเข้าไปอีกประมาณ 1-2 นิ้ว หรือตามความหนาที่ต้องการ จากนั้นใช้ปลายหวีวาดลงมาทางด้านซ้ายและแบ่งผมส่วนหน้าออกมา ทำเช่นเดียวกันกับด้านขวา จากนั้นรวบไว้ด้วยกัน
- เอากิ๊บหนีบผมทางด้านหลัง ทั้งซ้ายและขวาไว้ก่อน จะได้ตัดสะดวกมากขึ้น
- เริ่มตัดผมด้านซ้ายหรือขวาก่อนก็ได้ โดยถือกรรไกรเอียง 45 องศา แล้วตัดให้ไล่ระดับลงมาจากจมูกถึงคาง หรือใครอยากได้หน้าม้าแบบสั้นหน่อยก็ตัดได้เลย
- จากนั้นถือกรรไกร 90 องศา แล้วเล็มปลายผมให้ไม่ตรงทื่อ
- ทำแบบเดียวกับผมอีกข้าง ลองหวีดูอีกครั้ง และเก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย
- เวลาเซ็ตผมแนะนำให้ใช้ที่ม้วนผมไฟฟ้า หนีบผมช่วงบนจากโคนลงมาตรง ๆ แล้วม้วนช่วงปลายให้งุ้มเข้า ผมจะได้ดูหนามีวอลลุ่ม ผมด้านล่างสามารถเลือกทำได้หลายแบบ จะม้วนเข้าเหมือนกันหรือดัดช่วงปลายผมให้งอขึ้นก็ได้ ส่วนผมหน้าม้าให้ม้วนออกไปด้านข้างเล็กน้อย
เป็นอย่างไรบ้างคะทุกคนกับขั้นตอนการตัดทรงผมวูล์ฟคัทที่เรานำมาฝากในวันนี้ ตัดตามได้ไม่ยากแถมใช้อุปกรณ์ไม่เยอะเลยใช่ไหมคะ สำหรับสาว ๆ ที่ไม่เคยตัดผมด้วยตัวเองมาก่อนอาจจะยังไม่มั่นใจเท่าไรว่าตัดเองแล้วจะรอดไหม กลัวจะแหว่ง กลัวจะออกมาไม่ดี บอกเลยว่าทรงนี้เป็นหนึ่งในทรงที่ง่ายและเหมาะกับการลองตัดด้วยตัวเองมาก เพราะไม่ได้ต้องตัดออกมาเนี้ยบเป๊ะอะไรมากมาย ยิ่งเซ็ตให้ดูยุ่ง ๆ หน่อยก็ยิ่งสวย ไม่แน่ว่าหลังจากนี้คุณอาจจะค้นพบความสามารถใหม่และอัปสกิลไปตัดทรงอื่นได้ด้วย ทีนี้ก็ไม่ต้องง้อช่างแล้ว ส่วนอุปกรณ์ตัดและเซ็ตผมก็หาซื้อได้ไม่ยากในราคาย่อมเยาเพียงเข้าไปที่ Lazada
ที่มาข้อมูล: youtube , themestizamuse
Comments 2