ด้วยกระแสของยุค Y2K ที่กำลังมาแรง ทำให้ ทรงผม Y2K กลับมาได้รับความนิยมด้วยอีกครั้ง ในช่วงนี้เราจึงได้เห็นการแต่งกายหรือการทำผมในสไตล์ Y2K กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากทางบ้านเราเองหรือจากสื่อต่างประเทศต่าง ๆ ที่มีศิลปินดาราหลายคนออกมาแต่งตัวและทำผมในสไตล์นี้ให้เห็นกันมากขึ้น ส่วน Y2K จะคืออะไร และการทำผมแบบ Y2K นั้นเป็นแบบไหน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกัน
ทำไมถึงต้อง Y2K ?
เมื่อมีคนพูดถึงทรงผม y2k มากขึ้น ทำให้หลายคนสงสัยว่าจริง ๆ แล้ว Y2K นั้นคืออะไร? โดยY2Kคือช่วงเปลี่ยนผ่านทศวรรษ จากปีค.ศ.1990 หรือยุค 90s เข้าสู่ปี 2000 เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านที่คนให้ความสนใจทั่วโลกเพราะเป็นการก้าวข้ามผ่านสหัสวรรษ 1,000 ปี ที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ต้องใช้เวลากว่า 1,000 ปีกว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วน Y2K ย่อมาจากคำว่า Year 2 Kilo โดย Y ย่อมาจากคำว่า Year ที่แปลว่า ปี ส่วน 2K มาจากคำว่า Kilo ภาษาละตินที่หมายถึงหน่วยฐาน SI ที่มีค่าเท่ากับ 1000 (2×1000)
Y2K กับการก้าวเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตหรือโลกไร้พรมแดน เป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จากยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตเข้าสู่ยุคที่มีอินเทอร์เน็ตในปี 1987 หรือ พ.ศ.2530 ทำให้กลุ่มคน Gen Y เป็นที่สนใจ เพราะมีการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การสวมเสื้อเข้ารูป เสื้อเอวลอย กางเกงเอวต่ำ คล้องหูฟังไว้ที่คอ รวมถึงการทำผมที่เป็นลักษณ์ด้วย
สอนทำ ทรงผม Y2K แบบง่าย ๆ 5 สไตล์
- Y2K Braids เป็นทรงผม y2k ที่เหมาะสำหรับสาวผมยาว คือแสกกลางและแบ่งผมออกเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา แบ่งผมด้านหน้าลงมาเป็นปอยผมทั้ง 2 ข้างเล็กน้อย จากนั้นมัดจุกไว้ที่ด้านหลังบริเวณหลังใบหู และแบ่งผมที่มัดไว้ออกเป็นข้างละ 3 ช่อ จากนั้นถักเปียไล่ลงในระดับที่ต้องการ จะถักให้เท่ากันหรือไล่ระดับกันลงมาก็ได้ แล้วรัดยางให้แน่น ติดกิ๊บตกแต่งที่ด้านหน้าทั้ง 2 ข้าง เป็น ทรงผมถักเปีย ทำง่ายและน่ารัก
- Hair Clip เรียกว่าเป็นทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Y2K เลยก็ว่าได้ จุดเด่นของทรงนี้คือ การใช้กิ๊บหนีบผมตัวเล็ก ๆ ที่มีสีสันต่าง ๆ ติดที่ผมเพื่อความสวยงาม สามารถเลือกทำได้หลายสไตล์ เช่น การแบ่งผมออกเป็น 2 ข้าง แล้วรวบผมขึ้นมามัดได้ด้านบนเป็นจุกเล็ก ๆ ทั้ง 2 ข้าง แล้วติดกิ๊บไล่ระดับลงถึงปลายผม ก็จะช่วยให้ดูน่ารักสดใสขึ้น
- Bubble Braids คือการแบ่งผมออกเป็น 2 ข้าง แล้วรวบผมขึ้นมามัดไว้ด้านบนเป็นจุก 2 ข้าง เช่นกัน จากนั้นจะใช้ยางรัดผมมัดผมส่วนที่แบ่งไว้ลงมาให้เป็นปล้อง ๆ ห่างกันประมาณ 2 – 3 นิ้ว ตามต้องการ เสร็จแล้วให้หยิบผมที่มัดไว้ขั้นมาแล้วดึงผมปล้องผมออกเล็กน้อยเพื่อให้ผมพองเป็นปล้องสวยเหมือนบับเบิ้ล สิ่งสำคัญของทรงนี้คือ อย่างลืมแบ่งปอยผมด้านหน้าลงมาด้วย จะช่วยให้ดูน่ารักมากขึ้น
- Double Bun เป็นทรงยอดฮิตที่คล้ายกับการมัดแกละ 2 ข้าง แต่จะแบ่งปอยผมลงมาด้านหน้าให้เป็นจุดเด่น แล้วมัดแกละขึ้นรวบให้พองสวย ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยกิ๊บ
- Half Double Bun จะคล้ายกับทรง Double Bun แต่ทรงนี้จะมัดผมแค่ครึ่งหัวขึ้นไปมัดแกละเท่านั้น ด้านล่างจะปล่อยยาวให้พลิ้วสวย
5 เหตุผลที่ทำให้ทรงผม Y2K กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
- มีความเป็นเอกลักษณ์ การแต่งตัวและทรงผม y2k นั้นค่อนข้างโดดเด่น เพราะเป็นยุคที่ได้เริ่มเผยแพร่แฟชั่นและเทรนด์ต่าง ๆ ผ่านโลกออนไลน์ จึงทำให้คนจดจำภาพเกี่ยวกับวัยรุ่นในยุค Y2K กันได้มากขึ้น
- มีความน่ารักสดใสในตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ทรงผม หรือเครื่องประดับล้วนมีความน่ารักสดใสอยู่ในตัว เน้นสีสันและลวดลายแบบกราฟิก เมื่อพูดถึงยุค Y2K หลายคนจึงนึกถึงความน่ารักสดใสนั่นเอง
- ทำง่าย ทรงผมแบบ Y2K เป็นทรงผมที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ตกแต่งผมก็สามารถทำได้ เนื่องจากในยุคนั้นยังไม่มีอุปกรณ์ตกแต่งผมให้เลือกใช้มากนัก ทรงผมในช่วงนั้นจึงเน้นไปที่การมัดจุก การรวบผม หรือการติดกิ๊บเท่านั้นเอง
- แมตช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย เป็นทรงผมที่เรียบง่ายแต่ดูมีเสน่ห์ จึงทำให้แมตช์เข้ากับเสื้อผ้าได้ง่าย เข้ากับหลายลุค ไม่ว่าจะเป็นลุคสาวหวาน สาวมั่น สาวเซ็กซี่ หรืออื่น ๆ
- ได้รับความนิยมจากสื่อต่าง ๆ ความจริงแล้วสไตล์ Y2K กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงปลายปี 2022 เรื่อยมาจากการที่ศิลปินนักร้องออกมาแต่งตัวและทำผมสไตล์นี้ผ่านสื่อกันมากขึ้น อาทิ Britney Spears, Beyoncé, Bella Hadid, New Jeans
สำหรับใครที่ชื่นชอบสไตล์ Y2K ก็สามารถทำทรงผม y2k เก๋ ๆ ไปสนุกกับกลุ่มเพื่อนกันได้ ทำได้หลายทรง ทำง่าย แถมยังไม่ต้องกลัวผมเสียเพราะเป็นทรงง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ทำผมหรือความร้อนจนทำให้ผมเสียเลย หรือหากใครใช้อุปกรณ์ทำผมอย่างเครื่องหนีบผมหรือไดร์เป่าผมช่วยในการจัดแต่งทรงผม ก็อย่าเลือกลืมใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมเพื่อให้ผมมีสุขภาพดีไม่แห้งเสียกันด้วย