ตำนานแห่งความรักเป็นตำนานที่มีอยู่ในทุก ๆ วัฒนธรรม เพราะความรักเป็นเรื่องพื้นฐานของปุถุชน ไม่ว่าจะวัฒนธรรมไหนต่างก็มีตำนานรักเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นตำนานเทพคิวปิกในปกรณัมกรีก หรือของไทยก็มีตำนานรักผาแดงนางไอ่ ตำนานรักขวัญเรียม เป็นต้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับตำนานรักของประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างประเทศจีน นั่นก็คือ ชีซีเจี๋ย ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันวาเลนไทน์จีนเลยก็ว่าได้ ว่าแต่ตำนานรักนี้จะเป็นอย่างไรตามได้ดูพร้อมกันได้เลย
เทศกาล ชีซีเจี๋ย ตำนานวันวาเลนไทน์จีน
เทศกาลชีซีเจี๋ยที่กล่าวขานกันว่าเป็นวันวาเลนไทน์จีนนั้นตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งเทศกาลนี้มีที่มาจากตำนานของจีนที่เป็นที่กล่าวขานมาอย่างยาวนาน
หนุ่มเลี้ยงวัวนามว่า หนิวหลาง ที่ตกหลุมรักเทพธิดาองค์หนึ่งนามว่า จือหนี่ว์ ซึ่งเป็นเทพธิดาทอผ้าที่แอบหนีจากสวรรค์ลงมาเล่นน้ำในโลกมนุษย์กับพี่น้องทั้งเจ็ด โดยวันหนึ่งหนุ่มเลี้ยงควายได้ไปแอบหยิบเสื้อผ้าของนางทำให้ไม่สามารถกลับสวรรค์ได้ เทพธิดาจือหนี่ว์จึงได้แต่งงานอยู่กินกับหนุ่มเลี้ยงควายจนมีบุตรชายหญิงที่น่ารักด้วยกัน
เมื่อวันเวลาผ่านไปควายที่เลี้ยงไว้ได้ตายลง โดยก่อนตายควายกล่าวกับชายหนุ่มว่าให้เก็บเขาและหนังของตนไว้เพราะจะมีประโยชน์ในวันข้างหน้า เมื่อสวรรค์ล่วงรู้จึงออกคำสั่งให้เทพธิดาจือหนี่ว์ต้องกลับสวรรค์ หนุ่มเลี้ยงควายจึงใช้เขาและหนังควายมาคลุมตัวเหาะติดตามไป
เง็กเซียนฮองเฮาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์จึงควักเอาปิ่นปักผมมาขีดบนท้องฟ้าเป็นธารน้ำแยกไม่ให้หนุ่มเลี้ยงควายกับเทพธิดาจือหนี่ว์เจอกัน แต่อนุญาตให้ทั้งสองมาพบกันได้ปีละหนึ่งครั้งในวันที่ 7 เดือน 7 จากตำนานความรักอันบริสุทธิ์ของทั้งคู่จึงทำให้วันนี้กลายเป็นวันแห่งความรักตามคติแบบจีน
ตำนาน ชีซีเจี๋ย กับคำอธิบายทางดาราศาสตร์
ในวันที่ 7 เดือน 7 หากมองขึ้นไปบนฟ้าเราจะพบกับกลุ่มดาว 3 ดาว ทำมุมกันในลักษณะของรูปสามเหลี่ยม ซึ่งในทางดาราศาสตร์อธิบายว่าเป็นกลุ่มดาวสามเหลี่ยมฤดูร้อน (Summer Triangle) เป็นสัญญาณว่าฤดูร้อนได้มาเยือนแล้ว จะสามารถมองเห็นกลุ่มดาวนี้ได้ตลอดในช่วงนี้
โดยกลุ่มดาวสามเหลี่ยมฤดูร้อนนี้ประกอบไปด้วยดาวอัลแตร์ (Altair) ที่อยู่ตรงข้ามกับดาวเวกา (Vega) เปรียบหนุ่มเลี้ยงควายเป็นดาวอัลแตร์และเทพธิดาทอผ้าจือหนี่ว์เป็นดาวเวกาซึ่งทั้งสองอยู่ห่างกัน ส่วนดาวดวงที่สามจะอยู่ตรงกลางซึ่งก็คือดาวเดเน็บ (Deneb) เป็นเสมือนจุดนับพบกันของทั้งสองที่จะได้มาพบกันปีละครั้ง หากมองในแง่นี้ตำนานหนุ่มเลี้ยงควายกับเทพธิดาทอผ้านั้นเป็นตำนานที่นำเอาปรากฏการณ์ธรรมชาติเกี่ยวกับดวงดาวบนท้องฟ้าในช่วงฤดูร้อนมารวมเข้ากับตำนานความเชื่อ
กิจกรรมในเทศกาลชีซีเจี๋ย
ตามความเชื่อในวันเทศกาลชีซีเจี๋ย หรือวันที่ 7 เดือน 7 คนโสดมักจะขอคู่ คนที่อยากมีลูกก็จะขอลูก หรือหญิงสาวจะมาขอพรกับเทพธิดาทอผ้าให้ตนมีทักษะและฝีมือการบ้านการเรือนเป็นเลิศ โดยมีการนำเอาเครื่องเรือนและอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยออกมาวางกลางแจ้งเพื่อรับพรจากเทพธิดาทอผ้าหรือที่เรียกว่า “ฉีเฉี่ยว” และทำการสนเข็มกลางแสงจันทร์โดยเชื่อว่าใครที่ทำสำเร็จก็จะได้รับพร
หรืออีกวิธีหนึ่งในสมัยโบราณจะจับแมงมุมมาใส่กล่องปล่อยทิ้งไว้หนึ่งคืน รุ่งเช้ามาให้เปิดดูหากแมงมุมชักใยเต็มกล่องเชื่อว่าพรที่ขอไปนั้นจะสำเร็จ นอกจากนั้นยังมีการทำขนมเฉียวกั่ว ซึ่งทำจากแป้ง น้ำตาล น้ำผึ้ง งา ปั้นเป็นรูปดอกไม้รับประทานกันในช่วงเทศกาลด้วย
ตำนานรักวาเลนไทน์จีนในปัจจุบัน
เป็นอย่างไรบ้างกับความรู้เกี่ยวกับเทศกาลวาเลนไทน์จีนหรือ ชีซีเจี๋ย ที่เรานำมาฝากในวันนี้ จริง ๆ แล้วในวัฒนธรรมจีนยังมีความเชื่อวันแห่งความรักที่นอกจากวันที่ 7 เดือน 7 อีกด้วย อย่างเช่น วันหยวนเซียวเจี๋ยที่ตรงกับวันที่ 15 เดือน 1 เป็นวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกหลังจากตรุษจีน จะมีการจัดเทศกาลโคมไฟ ซึ่งหนุ่ม ๆ สาว ๆ มักจะออกมาชมความงามของโคมไฟยามค่ำคืน จึงถือเป็นโอกาสที่จะได้พบปะสานสัมพันธ์กันของคนหนุ่มสาว
นอกจากนั้นยังมีวันที่ 20 เดือน 5 เมื่อเขียนตัวเลข 520 จะออกเสียงว่า “อู่เอ้อหลิง” พ้องเสียงกับคำว่า “หว่ออ้ายหนี่” ที่แปลว่าฉันรักคุณ นี่จึงเป็นที่มาว่าเลข 520 กลายมาเป็นภาษาบอกรักของคนจีนในโลกอินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าพิมพ์เลข 520 เท่ากับเป็นการสารภาพรักนั่นเอง
คนจีนหลาย ๆ คนใช้วันนี้เป็นวันสารภาพรักครั้งแรกและยังนิยมไปจดทะเบียนสมรสกันในวันนี้อีกด้วย นอกจากนั้นวันที่ 11 เดือน 11 ยังถือว่าเป็นวันคนโสด เพราะเลขหนึ่งเรียงกันสี่ตัวนั้นแสดงถึงความโดดเดี่ยว ในวันนี้คนโสดจึงจะถือโอกาสออกมาเดต สารภาพรัก เพื่อบอกลาการเป็นโสดและความโดดเดี่ยว นับว่าเป็นวันแห่งความรักได้อีกวันหนึ่งเลย
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าทุกคนคงได้สาระดี ๆ เกี่ยวกับตำนานวันแห่งความรักของจีนกันไปบ้างแล้ว เห็นไหมว่าตำนานรักแบบฉบับจีนก็โรแมนติกไม่เบาเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าวันไหน ๆ ถ้าหากเราส่งมอบความรักความปรารถนาดีให้แก่กันอยู่เป็นประจำก็จะทำให้โลกนี้สดใสและอบอวลไปด้วยความรักแล้ว
ที่มาข้อมูล: numeiang , thai.cri.cn , bangkokbiznews