สำหรับชาวพุทธแล้วการสวดมนต์ถือเป็นข้อปฏิบัติหลักที่ควรทำเป็นประจำ เพราะเป็นบุญกิจ บุญกิริยาที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมานับตั้งแต่สมัยพุทธกาล เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และถือกันว่าเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต อีกทั้งการสวดมนต์ยังช่วยให้เราเกิดสมาธิ ปัญญา และส่งผลดีต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง บทสวดมนต์นั้นมีหลายบท แต่บทที่เชื่อกันว่าสามารถบันดาลผลสัมฤทธิ์ในการป้องกันอันตรายและขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บออกไปได้ก็คือ บทสวดอิติปิโส
การสวดมนต์ป้องกันภัยด้วย บทสวดอิติปิโส
บทสวดที่พวกเราชาวพุทธคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมาตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือก็คือการสวดมนต์ด้วยการตั้งนะโม 3 จบ แล้วตามด้วย
“อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ”
เชื่อว่าทุกคนจำบทสวดนี้ได้ ความจริงแล้วบทสวดที่ยกมานี้เป็นเพียงบทย่อสำหรับสวดในชีวิตประจำวัน ส่วนบทเต็มนั้นจะมีมากกว่านี้ คำทุกคำที่ร้อยเรียงกันในบทสวดอิติปิโสมีจุดมุ่งหมายเพื่อน้อมรำลึกจิตใจผู้สวดให้ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสังฆเจ้า บทสวดอิติปิโสเป็นส่วนหนึ่งของบทสวดธชัคคสูตร เป็นบทที่นิยมสวดเพื่อป้องกันภัย โดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจชั้นเลิศ เหมือนในเรื่องเทวาสุรสงครามที่เทวดาทั้งหลายทำสงครามกับเหล่าอสูร เมื่อมองไปที่ชายธงของพระอินทร์ก็ทำให้เกิดความมั่นใจ เช่นเดียวกับการระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะทำให้เกิดความมั่นใจหายกลัวได้
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อกันว่า บทสวดมนต์อิติปิโสเป็นคาถาที่ป้องกันอันตราย เวลาไปไหนมาไหนให้ท่องไว้ เมื่อต้องเดินทางไปในที่ที่ไม่เคยรู้จัก มีความวิตกกังวล ตื่นสถานที่ และรู้สึกไม่ปลอดภัย ใช้บทสวดนี้เป็นเครื่องป้องกันจะแคล้วคลาดจากอันตราย
บทสวดอิติปิโสศักดิ์สิทธิ์ที่ใจไม่ใช่อิทธิฤทธิ์
การสวดมนต์นั้นเป็นที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่ง ความรู้สึกปลอดภัยจะเกิดขึ้นเมื่อผู้สวดมีจิตใจที่นิ่งและมุ่งไปสู่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ความเชื่อมั่นและศรัทธาในใจคือเกราะป้องกันอันตรายที่แท้จริง เพราะในขณะที่สวดมนต์สมาธิจะเกิดและทำให้มีสติปัญญาสามารถใช้ความคิดได้อย่างมีเหตุผล หากมีอะไรเกิดขึ้น เราจะตั้งรับเหตุการณ์ได้ด้วยสติที่มั่นคงนั่นเอง ความศักดิ์สิทธิ์ของบทสวดคือการเรียกสติ ไม่ใช่อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ใด ๆ ไม่ใช่สวดแล้วจะเกิดพลังแสงวูบวาบ เสกอาวุธทำลายศัตรูได้เหมือนในซีรีส์
ชีวิตดี ๆ ที่ได้มาจากบทสวดอิติปิโส
หลายคนคงเคยได้ยินว่าสวดมนต์แล้วชีวิตจะดี คำพูดนี้ไม่ได้เกินความจริงแต่อย่างใด เพราะข้อดีของการสวดมนต์ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วมีดังนี้
- ช่วยให้สบายใจ โดยเฉพาะเมื่อเราได้รู้ความหมายของบทสวดมนต์จะรู้สึกว่ามีที่ยึดเหนี่ยวทางใจ การเลือกบทสวดอิติปิโสที่มีคำแปลให้เราเข้าใจความหมายก็จะทำให้เข้าถึงในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
- ทำให้เกิดจิตใจที่ดีงามและคิดบวกอยู่เสมอ แม้เจอปัญหาก็สามารถคิดหาวิธีแก้ไขได้อย่างไม่ท้อ ส่วนผู้ที่ไม่เคยเผชิญปัญหาใด ๆ จะยิ่งมีจิตใจที่ดียิ่งขึ้น และพร้อมที่จะเผื่อแผ่พลังบวกไปยังผู้อื่นที่กำลังเดือดเนื้อร้อนใจ
- การสวดมนต์ทำให้ใจจดจ่ออยู่กับบทสวด ทำให้เกิดสมาธิ นำไปสู่การใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล และดำเนินชีวิตแบบไม่หลงผิดเพราะมีเหตุผลนำทาง
- จิตใจที่ดีกับสุขภาพที่ดีมีความเชื่อมโยงกับการสวดมนต์ ข้อนี้ไม่ใช่เรื่องที่พูดกันลอย ๆ เพราะมีงานวิจัยทางการแพทย์ออกมาแล้วว่า การสวดมนต์เพียงวันละไม่กี่นาทีจะทำให้ระบบภายในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งเซลล์สมอง ฮอร์โมน หัวใจ และหลอดเลือด ทุกอย่างจะปรับตัวสู่ความสมดุลทำให้สุขภาพดีขึ้น คนที่กำลังป่วยก็จะอาการดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน
การสวดมนต์ด้วย บทสวดอิติปิโส และวิธีฝึกสมาธิที่ถูกต้อง
มีความเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า การสวดอิติปิโสต้องสวดบทละหลายรอบ เช่น นับรอบเท่าอายุ หรือสวดให้ครบ 108 จบ จึงจะมีความศักดิ์สิทธิ์และสัมฤทธิ์ผล ความจริงแล้วการสวดมนต์วนหลายรอบมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความจดจ่ออยู่กับถ้อยคำและการนับจำนวนรอบ ซึ่งจะทำให้เกิดความนิ่งและมีสมาธิเท่านั้นเอง ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวว่าจะต้องสวดเท่าไร ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้สวดเองว่าจะกำหนดให้ตัวเองสวดมนต์เท่าไรในแต่ละครั้ง แต่ควรเตรียมความพร้อมทั้งจิตใจ ร่างกาย รวมถึงเครื่องบูชาพระก่อนเริ่มบทสวดซึ่งได้แก่
- ธูป 3 ดอกเทียน2 เล่ม
- ดอกไม้ใส่แจกันหรือพวงมาลัย
- น้ำสะอาดใส่แก้วหรือขวด
- ผลไม้และขนม อาจจัดเฉพาะวันพระ หรือไม่จัดก็ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวก
เมื่อพร้อมแล้วให้เริ่มการทำสมาธิประมาณ 5 นาทีก่อน แล้วจึงสวดมนต์ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- หลับตา กำหนดลมหายใจเข้าและลมหายใจออกให้ลึกและยาว จดจ่อกับลมหายใจ
- จัดท่านั่งที่สบายสำหรับการนั่งนาน ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องขัดสมาธิเสมอไป สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกนั่งพื้นก็อาจใช้เก้าอี้แทนก็ได้
- หลังจากทำสมาธิแล้ว ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แล้วนั่งสงบนิ่งสักครู่จึงเข้าสู่ภาวะปกติ
- สวดนะโม 3 จบ ก่อนเริ่ม
- สวดออกเสียงหรือไม่ออกเสียงก็ได้ ขอให้จดจ่ออยู่กับถ้อยคำในบทสวดเพื่อไม่ให้สวดผิดพลาด
สำหรับผู้ที่มีเวลาอาจนั่งทำสมาธิต่อหลังจากสวดมนต์เสร็จโดยใช้วิธีเดิม การสวดมนต์และนั่งสมาธิเป็นสิ่งที่ดีหากสามารถปฏิบัติได้เป็นประจำ เพราะจะเป็นการฝึกจิตให้นิ่งและสร้างความเข้มแข็งให้กับจิตใจ เมื่อจิตใจดี มีสติปัญญาดี จะนำมาซึ่งสิ่งดี ๆ ในชีวิต
ที่มาข้อมูล: stou , goodlifeupdate , trueplookpanya